ณ วินาทีนี้ไม่มีใครที่อยู่ในโลกความเร็วไม่รู้จักแม็กซ์ เวอร์สแตปเพน เพราะเขาคือ นักแข่ง F1 ที่ดีที่สุดในยุคนี้ และเขากำลังสร้างยุคสมัยของตัวเองขึ้นมา ด้วยการคว้าแชมป์โลกได้ถึง 2 สมัยติดต่อกัน และกำลังจะเถลิงแชมป์สมัยที่ 3 ได้ในเร็วๆ นี้ แต่ที่น่าสนใจคือ ความสำเร็จของเขาเกิดขึ้นในวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น นั่นเท่ากับว่าเขายังมีโอกาสและเวลาที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมาได้อย่างแน่นอน
เวอร์สแตปเพนเป็นลูกชายของโจส เวอร์สแตปเพน ซึ่งพ่อของเขาก็เป็นนักแข่ง F1 เช่นกัน และเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมเบเนตตองของมิชาเอล ชูมัคเกอร์ในช่วงปี 1994 และถ้ายังจำกันได้ภาพที่เพลิงลุกไหม้รถแข่งสีฟ้าในขณะที่กำลังเข้าพิตเพื่อเติมน้ำมันในการแข่งขันรายการเยอรมนี กรังด์ปรีซ์ นั้นแหละคือ ภาพของโจส เวอร์สแตปเพน พ่อของแม็กซ์
สิ่งที่น่าสนใจคือ แม็กซ์สามารถคว้าแชมป์โลกครั้งแรกด้วยวัย 24 ปี ซึ่งอาจจะไม่ถึงกับเป็นแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุด เพราะอย่างลูอิส แฮมิลตันก็คว้าแชมป์โลกครั้งแรกของตัวเองในปี 2008 ด้วยวัย 23 ปี หรือมิชาเอล ชูมัคเกอร์ และเฟอร์นันโด อลองโซก็คว้าแชมป์โลกครั้งแรกของตัวเองด้วยวัยประมาณเดียวกับแม็กซ์ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ แม็กซ์ได้อยู่กับทีมที่มีศักยภาพและรถแข่งเองก็มีศักยภาพที่ดีด้วยเช่นกัน
ประเด็นคือ ปัจจัยที่จะเกื้อหนุนเขาให้สามารถครองบัลลังก์ความยิ่งใหญ่ในสนามแข่ง F1 ต่อไปมีอยู่ด้วยกัน 2 เรื่อง คือ ในยุคนี้ยังไม่มีนักแข่งที่จะขยับขึ้นมาเทียบชั้นกับเขาได้เลย เพราะแฮมิลตันก็อายุเยอะแล้ว และอีกไม่นานก็น่าจะเลิกแข่งขันเช่นเดียวกับอลองโซ่ ขณะที่นักแข่งที่มีวัยใกล้เคียงกัน ก็ยังไม่มีคนไหนที่เทียบชั้นขึ้นมาเท่ากับเขาได้อีกเลย ดังนั้น ตรงนี้มีช่องว่างในแง่ของความสามารถเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ประเด็นที่ 2 คือ เขาอย่าเพิ่งย้ายทีม ถ้าลองสังเกตดูว่า แชมป์โลกหลายคนเกิดอาการฟอร์มสะดุด และต้องใช้เวลาปรับตัวค่อนข้างนาน กว่าที่จะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้ หรือบางคนก็แทบจะกลับมาไม่ได้เลย ซึ่งเวลาที่เสียไปหมายถึงโอกาสที่ตัวเขาเองจะสร้างความสำเร็จด้วยเช่นกัน
ชูมัคเกอร์ย้ายออกจากทีมเบเนตองมาอยู่กับเฟอร์รารี่ในปี 1997 และกว่าที่เขาจะคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ได้ต้องรอจนถึงปี 2000 ซึ่งนั่นเขามีอายุ 31 ปีแล้ว ขณะที่อลองโซ่หลังจากออกจากเรโนลต์มาอยู่กับทีมแม็คลาเรนในปี 2007 เขาก็พลาดที่จะครองบัลลังก์ของตัวเองต่อไป และหลังจากนั้น อลองโซ่ก็ไม่เคยที่จะกลับมาสัมผัสแชมป์อีกเลยแม้ว่าจะได้อยู่กับยอดทีมอย่างเฟอร์รารี่
เซบาสเตียน เว็ทเทล รุ่นพี่ของเขาในทีมเรดบูลล์ เรซิงก็มีสภถาพเดียวกัน หลังจากที่คว้าแชมป์ 4 สมัยติดต่อกันเขาเลือกเดินออกจากทีมไปอยู่กับทีมที่ใหญ่กว่าอย่างเฟอร์รารี่ และนั่นเป็นการปิดโอกาสการคว้าแชมป์โลกของเขา และเป็นการเปิดทางให้กับทีมเมอร์เซเดสและแฮมิลตันได้ครองความยิ่งใหญ่
ถ้าแม็กซ์อยากจะประสบความสำเร็จ สิ่งหนึ่งคือความเชื่อมั่นในทีมและเรดบูลล์ เรซิง ณ ปัจจุบันคือ ทีมชั้นนำของวงการ และทำรถแข่งที่แล่นได้เร็วและทนทาน ชนิดที่ทำให้แม็กซ์สามารถแซงหน้านักแข่งรุ่นเดียวกันได้อย่างสบายๆ ดังนั้น ถ้าเขาอยากจะออกจากทีม สิ่งที่จะต้องลุ้นเอาคือ เขาจะปรับตัวให้เข้ากับทีมแข่งใหม่ได้ไหม และรถแข่งของทีมแข่งนั้นๆ จะมีความยอดเยี่ยมมากกว่าของเรดบูลล์ เรซิงที่เขาขับอยู่หรือเปล่า อันนี้คือ ประเด็นที่จะต้องพิจารณาให้ถ้วนถี่
อย่างไรก็ตาม ด้วยวัยเพียง 25 ปี นั่นหมายความว่าเขายังมีโอกาสอีกเยอะในการยืนอยู่แถวบนของวงการ และอย่างที่บอก บางครั้งเรื่องของความท้าทายในการหาบรรยากาศใหม่ๆ หรือเงินก้อนโตที่จะได้รับเมื่อมีการย้ายทีม สิ่งเหล่านี้แหละคือ ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ช่วงเวลาแห่งความยิ่งใหญ่ของเขาสะดุดลง
และตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่แล้ว
ทายผลฟุตบอลที่ You win I win ที่เดียวที่คุณจะชนะ
ร่วมลุ้นรางวัลใหญ่! Your winning's best friend เพื่อนซี้คู่ใจของชัยชนะ
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Website : https://mainscoreth.com
Facebook : https://www.facebook.com/mainscoreth
วิเคราะห์บอล ข่าวกีฬา ข่าวบอล ผลบอล by ฟุตบอลกูรู | mainscoreth
ร่วมสนุก รับของรางวัลฟรี !!! Add Line : @mainscoreth
#MainScoreTh #MainScoreThailand