สุดยอดนักมวยไทย บัวขาว บัญชาเมฆ

ใกล้เข้ามาทุกขณะแล้วกับการคืนสังเวียนราชดำเนินของยอดมวยชาวไทย “บัวขาว บัญชาเมฆ” ที่ครั้งนี้ขอประกาศศักดาด้วยการเผชิญหน้ากับซูเปอร์สตาร์จากแดนซามูไร “ยาสุฮิโร่ คิโดะ” อดีตยอดนักชกคิกบ็อกซิ่งและเป็นแชมป์ K-1 ในศึก RWS: Legend of Rajadamnern

ก่อนที่จะถึงไฟต์สำคัญในวันที่ 9 กันยายนนี้ เรามาดูเส้นทางการต่อสู้ของสุดยอดนักมวยไทย “บัวขาว บัญชาเมฆ” กว่าจะเป็นตำนานนักมวยไทยเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง บอกได้เลยว่าดีกรีนักสู้คนนี้ไม่ธรรมดา

ลงสังเวียนมวยไทยตั้งแต่ 8 ขวบ
บัวขาว บัญชาเมฆ เขาได้เริ่มต้นชีวิตการชกมวยในวัย 8 ขวบ เดินสายชกในจังหวัดสุรินทร์จนถึงอายุ 15 ปี แล้วได้รับโอกาสให้เข้าสังกัดค่าย ป.ประมุข โดยใช้นามในการชกว่า ” ดำทมิฬ เกียรติอนันต์ ” มา ชกมวยไทย ในกรุงเทพและได้คว้าเข็มขัดแชมป์มาครองหลายเส้น รวมถึงแชมป์เวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท , แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท และแชมป์ที่ เวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นไลท์เวท

และ ในปีพ.ศ. 2545 บัวขาว ได้ชนะเลิศมวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ชนะ โคบายาชิ นักมวยชื่อดังจากญี่ปุ่น

พลิกชีวิตเดินหน้าสู่สังเวียนโลก
ในปี 2547 บัวขาว ได้ขึ้นชก K-1 ครั้งที่ ในรายการ K-1 World MAX 2004 ที่จัดขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนท์แข่งแบบแพ้คัดออก และ บัวขาว ก็โชว์ความแข็งแรงเอาชนะคู่แข่งได้ 3 รวด โดยในรอบล้มแชมป์เก่าอย่าง มาซาโตะ จากญี่ปุ่น พร้อมแบ่งเข็ดขัดแชมป์มาครองได้ ชัยชนะที่แดนอาทิตย์อุทัยทำให้บัวขาวกลายเป็นกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในชั่วข้ามคืน

และในปี พ.ศ. 2549 บัวขาว ได้เข้าชิงในรายการ K-1 World MAX เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยในครั้งนี้ ยอด มวยชาวไทย สามารถคว้าแชมป์ K1 กลับมาครอง ทำให้เขาเป็นนักชกคนแรก ที่สามารถชนะเลิศในรายการนี้ได้ 2 สมัย

5 ปีต่อมา บัวขาว เบนเข็มกลับมาชกทัวร์นาเม้นท์มวยไทยอีกครั้งในรายการ ไทยไฟต์ อีกหนึ่งรายการที่ดังในระดับนานาชาติ เขาตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของตัวเองด้วยการคว้าแชมป์ รุ่น 70 กิโลกรัม ได้ถึง 2 สมัยติดต่อกัน

หลังจากนั้นเขายังคงโกอินเตอร์อยู่เรื่อยๆ มีโอกาสได้ขึ้นต่อสู้ในรายการพิเศษอีกหลายรายการ อาทิ คุนหลุน ไฟต์ รวมถึงแมตช์การต่อสู้ที่เป็นกระแสกับ อี้ หลง นักศิลปะการต่อสู้วูซูของจีน

ชกเก่ง การศึกษาไม่ธรรมดา
– รับปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิต (ปริญญาตรี) : บธ.บ. คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
– รับปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาโท) สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
– รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอก) สาขาวิชายุทธศาสตร์ การพัฒนาภูมิภาค (กลุ่มการศึกษาและจัดการภูมิปัญญา) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ในปี 2560

นอกจากนี้ บัวขาว บัญชาเมฆยังได้เข้ารับราชการทหาร ตำแหน่งร้อยโทที่โรงเรียนกำลังสำรอง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนอีกด้วย ได้เข้ารับการฝึก หลักสูตร ทหารพลร่ม รหัส AB-1 รุ่นที่ 338 ณ โรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ จังหวัดลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นเวลา 1 เดือน

บอกได้เลยว่าชีวิตของ บัวขาว บัญชาเมฆ ได้ผ่านมาทุกประสบการณ์ทั้งการต่อสู้บนสังเวียน และการต่อสู้ด้านการศึกษา ไม่แปลกที่เขาจะเป็นตำนานและแรงบันดานใจของใครหลายๆ คน