ดาร์วิน นูนเญซ ยิงน้อย แต่แอสซิสต์เยอะ

การเข้ามาของดาร์วิน นูนเญซ ที่ย้ายจากทีมเบนฟิกามาอยู่กับลิเวอร์พูลด้วยค่าตัวระดับ 75 ล้านยูโรบวกกับแอดออนอีก 25 ล้านยูโรเมื่อซีซั่น 2022 นั้น แน่นอนว่ามาพร้อมกับความคาดหวังที่เขาจะกลายเป็นเครื่องจักรผลิตประตูเพื่อทดแทนการขาดหายไปของซาดิโอ มาเน่ และเตรียมขึ้นชั้นเพื่อทดแทนโรแบร์โต เฟอร์มิโน และโมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ที่เริ่มโรยราลง แต่กับ 2 ซีซั่นที่ผ่านมา กับ 14 ประตูที่เขาทำได้ ดูเหมือนว่าเกิดเครื่องหมายคำถามกับฟอร์มของเขาขึ้นมาแล้ว (จริงๆ มีมาตั้งนานแล้ว) และยิ่งในเกมนัดที่ลิเวอร์พูลเอาชนะนิวคาสเซิล 4-2 นั้น เครื่องหมายนี้ยิ่งมีขนาดใหญ่และชัดเจนขึ้น

ในช่วงแรกของการค้าแข้งกับลิเวอร์พูล โดยเฉพาะปีแรกหลายคนยังมีเกราะในการป้องกันให้กับนูนเญซในลักษณะที่ว่าเขาเป็นเครื่องจักรยิงประตูแบบดีเซล ต้องอาศัยเวลาและการปรับตัวเหมือนกับสมัยที่อยู่กับอัลเมเรีย และตอนย้ายมาอยู่กับเบนฟิกาในช่วงปีแรก ซี่งผลประกอบการแทบจะไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

Darwin Nunez

แต่พอเข้าสู่ปีที่ 2 เกราะเหล่านี้ไม่สามารถปกป้องเขาได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีค่าตัวค้ำระดับสูงค้ำเอาไว้อยู่ด้วย หลายคนเริ่มคาดหวังกับการยิงประตู เพราะนั่นคือหน้าที่ของศูนย์หน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกสไตรค์เกอร์ ST อย่างนูนเญซ แต่กลับกลายเป็นว่าในปีนี้เขาทำประตูในพรีเมียร์เพียงแค่ 5 ประตูเท่านั้นจาก 19 นัดที่ลงเล่นทั้งในแบบตัวจริงและตัวสำรอง แถมในระหว่างเกมการแข่งขันสิ่งที่เขามักจะถูกคนวิจารณ์อยู่เสมอ คือ การจับบอลแรกที่มักจะไม่เอื้อต่อจังหวะหรือโอกาสในการทำประตูสักเท่าไร

แถมในเกมที่เจอกับนิวคาสเซิลนั้น ลิเวอร์พูลยังมีค่าของ xG หรือ Expected Goals ซึ่งก็คือค่าเฉลี่ยของโอกาสต่อการเป็นประตูที่สูงมาก โดยลิเวอร์พูลยิงไป 34 ครั้ง แต่เปลี่ยนเป็นประตูได้แค่ 4 ครั้งแถมหนึ่งในนั้นยังเป็นลูดจุดโทษ ว่ากันว่าในเกมนั้นค่า xG สูงสุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก คือ 7.27 แซงหน้าสถิติเดิมที่ลิเวอร์พูลทำเอาไว้ในเกมที่พบกับลีดส์เมื่อปี 2022 และแมนเชสเตอร์ ซิตี้กับวัตฟอร์ดในปี 2015 (ซึ่งมีตัวเลขนี้อยู่ที่ 5.87) ลงอย่างราบคาบ

คำถามคือ เราควรจะไว้ใจและคาดหวังกับนูนเญซได้หรือไม่ เพราะภาพไฮไลท์ในเกมนัดที่พบกับนิวคาสเซิล มาร์ติน ดูบราฟกา นายทวารของสาลิกาดงก็ฟอร์มเข้าฝักมากๆ เซฟไปถึง 10 ครั้ง และหนึ่งในนั้นคือจุดโทษช่วงครึ่งแรกของซาล่าห์ และเชื่อว่าอีกเกินครึ่งที่เซฟมาจากการยิงของนูนเญซ

ไว้ใจ…เราเชื่อว่าไว้ใจนูนเญซได้ ในฐานะที่เขาคือหนึ่งในนักเตะที่อยู่ในสนาม และถ้าตัด KPI หลักในเรื่องการทำประตูออกไป สถิติที่ไม่น่าเชื่อคือ เขาคือ คนที่แอสซิสต์สูงเป็นอันดับ 2 คือ 5 ครั้งและเป็นรองแค่ซาล่าห์ (อยู่ที่ 7 ครั้ง) ขณะที่ลงเล่นน้อยกว่าซาลาห์ถึง 600 กว่านาที และในเกมที่พบกับนิวคาสเซิลเขาคือคนที่แอสซิสต์ให้ซาล่าห์ยิงประตูแรกในนาทีที่ 49

คาดหวัง…กับการทำประตู อันนี้ต้องบอกเลยว่า นูนเญซยังขาดสิ่งที่เรียกว่าความคงที่ในแง่ของความคม บทจะยิงได้ก็ยิงแบบลูกยากๆ แต่กับลูกง่ายๆ บางลูกกลายเป็นว่ากลับทำหมูหกหน้าปากประตูซะงั้น

Darwin Nunez

เพราะฉะนั้น ในเรื่องของการทำประตู อาจจะฝากผีฝากไข้กับเขาไม่ค่อยได้ แต่ถ้าการมีส่วนร่วมและช่วยเหลือทีมในการนำไปสู่ประตู นูนเญซสามารถไว้ใจได้ และกับฟุตบอลสมัยใหม่ ตำแหน่งคือ สิ่งที่มีอยู่เพื่อบอกสิ่งที่พวกนักเตะควรทำในสนาม แต่ฟุตบอลสมัยใหม่ หน้าที่ของกองหน้าไม่ได้มีแค่การยิงประตูเท่านั้น พวกเขายังมีจ็อบอื่นๆ อีกในการสนับสนุนการเล่นของทีม และการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมในการยิงประตูได้อีกด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้หาได้ค่อนข้างยากจากนักเตะระดับโลกบางคนที่มักจะชอบเล่นฟุตบอลแบบชายเดี่ยว

เอาเป็นว่า แม้สถิติการยิงประตูอาจจะต่ำกว่าที่คาดหวัง แต่เชื่อเลยว่าการมีนูนเญซอยู่ในสนาม ถ้าโอกาสยิงไม่มี อย่างน้อยเขาก็คลำทางและสามารถช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมที่มีโอกาสดีกว่าในการทำประตูอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับซาล่าห์

วิเคราะห์บอล ข่าวกีฬา ข่าวบอล ผลบอล by ฟุตบอลกูรู | mainscoreth
ร่วมมสนุก รับของรางวัลฟรี !!! Add Line : @mainscoreth
#MainScoreTh #MainScoreThailand