เรอัล มาดริด 2-1 บาเยิร์น มิวนิค | Champions League

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ดีกรีแชมป์ 14 สนัย กลับมาเล่นในซานติอาโก้ เบอร์นาเบว รับการมาเยือน “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค แชมป์รายการนี้ 6 สมัย โดยเกมแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่อัลลิอันซ์ อารีน่า จบลงด้วยการเสมอกันอย่างสนุก 2-2

นาทีที่ 8 บาเยิร์น เกือบได้เฮ มูเซียล่า จ่ายบอลให้ แซร์ช นาบรี้ ทะลุเข้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะไหลไปที่เสาสอง แต่จ่ายลึกเกินไป ทำให้ แฮร์รี่ เคน เข้าชาร์จไม่ถึง บอลไหลผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 13 มาดริดเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ โรดรีโก้ หลุดเข้าไปกดด้วยขวาเน้นๆ ในเขตโทษ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารบาเยิร์น ปัดบอลไปชนเสาเด้งออกมา วินิซิอุส ได้ยิงซ้ำดาบสอง แต่ นอยเออร์ ก็ยังเซฟช่วยทีมเอาไว้ได้อีก

นาที 28 บาเยิร์นได้ลุ้นบ้างจากลูกเปิดเข้าเขตโทษ แนวรับมาดริดสกัดบอลลอบมาเข้าทาง แฮร์รี่ เคน วอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่จับจากหน้าเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ อังเดร ลูนิน ผู้รักษาประตูมาดริด โชว์ซูเปอร์เซฟ พุ่งปัดบอลออกหลังได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะจบครึ่งแรกยังไม่มีประตูเกิดขึ้น สกอร์เสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังนาที 50 แฮร์รี่ เคน หัวหอกบาเยิร์น มิวนิค ได้โอกาสตะบันด้วยขวาในเขตโทษ อังเดร ลูนิน นายทวารเจ้าถิ่น ต้องออกแรงปัดบอลออกหลังไป

จากนั้น เรอัล มาดริด ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกของ โรดรีโก้ และลูกยิงเน้นๆ ในเขตโทษของ วินิซิอุส จูเนียร์ แต่ มานูเอล นอยเออร์ เซฟเอาไว้ได้หมด ช่วยให้ บาเยิร์น รอดพ้นจากการเสียประตู

นาที 68 บาเยิร์นได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อัลฟอนโซ่ เดวิส พาบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะแตะเข้าในแล้วสับไกด้วยขวา ส่งบอลพุ่งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างเฉียบขาด

นาที 71 เรอัล มาดริด เล่นเตะมุมสั้น โมดริช จ่ายย้อนมาให้ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ยิงจากนอกเขตโทษ บอลไปแฉลบผู้เล่นทีมเยือนเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินเช็กภาพจาก VAR นาโช เฟร์นานเดซ ไปทำฟาวล์ผู้เล่นบาเยิร์นก่อน ทำให้มาดริดชวดได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดาย

นาที 88 เรอัล มาดริด ตามตีเสมอได้สำเร็จเมื่อ วินิซิอุส จูเนียร์ สับไกด้วยขวาจากนอกเขตโทษ มานูเอล นอยเออร์ รับบอลกระฉอกออกมา โฆเซลู กองหน้าตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมา ปรี่เข้าไปซ้ำจ่อๆ ตุงตาข่าย มาดริดตีเสมอเป็น 1-1

ช่วงทดเวลา นาที 90+1 แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮสนามแทบแตกเมื่อ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ผ่านบอลจากซ้ายเข้ากลางให้ โฆเซลู เข้าชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือ เป็นประตูที่ 2 ของตัวเอง และเป็นประตูชัยให้ มาดริด พลิกกลับมาแซงชนะอย่างเหลือเชื่อ 2-1 สกอร์รวมสองนัด เรอัล มาดริด ชนะ 4-3 ได้ผ่านเข้าสู่เข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในวันที่ 1 มิถุนายน ที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ